จดหมายข่าวขบวนชุมชนสงขลา ฉบับสิงหาคม 2554 Download คลิ้กที่นี่ และติดตามฟังรายการปักษ์ใต้บ้านเรา ทางวิทยุ สวท.สงขลา 90.5 เมกกะเฮิร์ต เวลา 18.00-19.00 น. ทุกวันอังคาร -สวัสดิการชุมชน /ทุกวันพุธ-สภาองค์กรชุมชน


วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เครือข่ายประชาชนฯ สตูลจัดเวทีปราศัย + ฟรีคอนเสิร์ต รักษ์เภตรา ตะรุเตา


ศิลปินนักอนุรักษ์ธรรมชาติและลูกหลานชาวสตูล เดินทางกลับบ้านเกิด ร่วมเวที “รักษา เภตรา ตะรุเตา ทะเลบ้านเรา เพื่อลูกหลาน” เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา โดยที่ชาวบ้านต่างไม่เห็นด้วยที่จะแลกทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ พัฒนาในด้านอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการเพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเภตรา ซึ่งมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อคัดค้าน ชี้ เป็นการละเมิดสิทธิของชุมชนโดยไม่เปิดให้มีส่วนร่วม และไม่ฟังเสียงคัดค้าน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ปกป้องบ้านเกิดจนถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ จัดฟรีคอนเสิร์ตและปราศรัย “รักษา เภตรา ตะรุเตา ทะเลบ้านเรา เพื่อลูกหลาน” ณ ลาน 18 ล้าน ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดชมวิวทางทะเลที่สวยงาม สามารถมองเห็นเกาะ แต่ในอนาคตหากมีท่าเรือน้ำลึกเกิดขึ้น จะบดบังทัศนียภาพหมดสิ้น เพื่อให้ความรู้ถึงโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้ ซึ่งได้แยกย่อยเป็นโครงการสะพานเศรษฐกิจใต้ โดยจะเพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเภตราจำนวน 4,700 ไร่ เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกอุตสาหกรรมปากบารา

กิจกรรมในครั้งนี้ใช้ดนตรีเป็นสื่อในการบอกเล่าและสะท้อนความรู้สึก สลับกับการปราศรัย ซึ่งมีศิลปินที่เป็นลูกหลานชาวสตูลมาร่วม พร้อมกับศิลปินส่วนกลางที่มีจุดยืนในการปกป้องทรัพยากรให้เป็นสมบัติของคนในชาติ แทนการทำลายล้างเพื่อสร้างอุตสาหกรรม อาทิ ซูซู, คาราวาน, จ๊อบ ทูดู, พจนารถ พจนาพิทักษ์, แสง ธรรมดา, กัวลาบารา, อารัญ เหมรา, อัน ธวัชชัย, เอสเปรสโส เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านทรัพยากร และการอนุรักษ์ พร้อมทั้งตั้งโต๊ะรับลงรายชื่อคัดค้านการเพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเภตรา เพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือ

สำหรับการเสวนานั้น ระบุว่า โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา อ.ละงู จ.สตูล ได้ส่งรายงานด้านสิ่งแวดล้อมและพิจารณาผ่านแล้ว เหลือเพียงการขออนุญาตเพิกถอนแนวเขต ถามว่าคนสตูลจะเอาอย่างไร เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีท่าเรือแล้วไม่มีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นตามที่มีการบอกกับชาวบ้าน และในโครงการนี้ชาวบ้านก็ไม่ได้มีส่วนร่วม นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ

ขณะที่ตัวแทนชาวสตูล ชี้ว่า การถมทะเลกว่า 4,000 ไร่ ในทะเลของอุทยานแห่งชาติเภตรา เป็นการลิดรอนสิทธิทำกินของประชาชน ซึ่งมีการใช้ประโยชน์มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แม้จะอ้างว่า สร้างความเจริญ แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าตั้งอยู่บนความทุกข์ยาก แร้นแค้น และคราบน้ำตาของประชาชนหรือไม่ จากการพูดคุยในกลุ่มชาวบ้านนั้นบอกว่าพอใจกับวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ มีที่อยู่ ที่ทำกิน และหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ไม่ขัดสน

นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีตสมาชิกวุฒิสภากล่าวว่า เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีแนวคิดที่จะเซ้งอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้นักลงทุนมาสร้างโรงแรมก็นับว่าร้ายแรงแล้ว แต่สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกอุตสาหกรรมปากบารานี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง แต่ก็มีความหน้าด้านที่จะดันโครงการนี้เกิดขึ้นมาให้ได้ จึงอยากจะให้กำลังใจชาวสตูล เพื่อร่วมกันปกป้องดินแดนที่เป็นบ้านเกิด และขอบคุณทุกคนที่สละเวลามารวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย

จากนั้น เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ได้ประกาศเจตนารมณ์คนสตูล เพื่อรักษาอุทยานแห่งชาติเภตรา ตะรุเตา และทะเลไว้ให้ลูกหลาน โดยมีใจความสำคัญว่า นับแต่โบราณกาลมา สตูลเป็นผืนแผ่นดินที่สมบูรณ์พูนสุข สตูลเป็นที่ที่บรรพบุรุษของเราบุกเบิกสร้างบ้านสร้างเมือง สตูลเป็นแผ่นดินที่คนรู้การงาน-ไม่อดตาย

สตูลเป็นดินแดนมุสลิมชายแดนที่แสนสงบ สตูลยังเป็นโลกที่รวมเอาทุกเลือดเนื้อเชื้อชาติ ทั้ง จีน พุทธ มุสลิม และคนพื้นเมืองเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมเกลียวเหนียวแน่น เป็นลูกสตูลเดียวกันในเมืองเล็กๆ สวยงาม ในดินแดนใต้สุดของสยามประเทศฝั่งอันดามัน ถึงปัจจุบันนับได้ว่าทะเลสตูลยังเป็นทะเลที่บริสุทธิ์ที่สุด แห่งสุดท้ายของประเทศนี้ พี่น้องชาวสตูลและพี่น้องร่วมประเทศที่รักทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้เอง สตูลจึงเป็นสถานที่เกิด และที่ฝังสังขารของพวกเราทั้งหลายทั้งปวงในบั้นปลายของชีวิต

นับแต่อดีตมา เลือดเนื้อชาวสตูล ยอมเสียสละเรือกสวนไร่นาบนเกาะตะรุเตา ละทิ้งวัวควายสัตว์เลี้ยงไว้ที่นั่น ยินยอมแตกกระสานซ่านเซ็น บ้างก็ขึ้นฝั่งแผ่นดินใหญ่ บ้างก็ต้องแยกจากครอบครัวไปเสี่ยงโชคในดินแดนที่ห่างไกล เพื่อให้ผู้คนร่วมชาติได้ใช้ตะรุเตา ได้ร่วมกันทะนุถนอม ได้ร่วมกันชื่นชมหมู่เกาะที่มีแหล่งหินมหัศจรรย์ที่สุดของภูมิภาคนี้

ชาวสตูลเรายอมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆโดยไม่มีข้อแม้ เราถ่อมตนพอที่จะยอมรับการชี้นิ้วบงการจากคนต่างถิ่นที่ไม่รู้จักเราอย่างจริงจัง เราอดทนนั่งดูพวกเขาแย่งชิงทรัพยากรส่วนรวมไปจากเรา และนำส่วนเหลือๆ มาค่อยๆ พัฒนาเศรษฐกิจการเกษตร การท่องเที่ยว และการประมง ขึ้นมาด้วยลำแข้งเราเอง พี่น้องชาวสตูลและพี่น้องร่วมประเทศที่รักทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้เอง สตูลจึงได้ชื่อว่า “สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์”

พี่น้องทั้งหลาย ในวันนี้พวกเขากลับบอกเราว่า เขาจะถอนสภาพอุทยานเพื่อสร้างท่าเรือยักษ์ขนสินค้าของนักลงทุนธุรกิจ เขาบอกเราว่าเขาจะถมทะเลให้เป็นภูเขา แล้วเขาจะขุดภูเขาไปถมทะเล พวกเขายังบอกว่าสตูลจะเจริญ พวกเขาอ้างคำหรูว่า “การพัฒนา” พวกเขาคิดเอาเองว่าคนสตูลไม่ฉลาดเท่าพวกเขา

พี่น้องทั้งหลาย ในวันนี้เช่นกัน เราจะบอกพวกเขาว่า พวกเขาจะไม่ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ ลูกสตูลนิ่งเฉย และเสียสละมามากเกินพอแล้ว พวกเราในนามของประชาชนคนสตูลและคนภาคใต้ จักปกป้องพื้นที่ที่สวยงามที่สุดนี้ไว้ให้ลูกหลาน และของเรา ของชาติ ของแผ่นดินเท่านั้น

ประมวลภาพบรรยากาศ คลิ้กที่นี่