จดหมายข่าวขบวนชุมชนสงขลา ฉบับสิงหาคม 2554 Download คลิ้กที่นี่ และติดตามฟังรายการปักษ์ใต้บ้านเรา ทางวิทยุ สวท.สงขลา 90.5 เมกกะเฮิร์ต เวลา 18.00-19.00 น. ทุกวันอังคาร -สวัสดิการชุมชน /ทุกวันพุธ-สภาองค์กรชุมชน


วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ป่าต้นน้ำตรังถูกทำลาย วิบัติการณ์ ในรอบ 30 ปี


ความกังวล และความห่วงใยของผู้ร่วมวงสนทนาเริ่มพรั่งพรูหลั่งไหลถ้อยคำบอกเล่าเรื่องราวบาดแผลและความปวดเร้าของชุมชนสู่กันและกันอีกครั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นการส่งเสียงครั้งที่เท่าไหร่กันแน่ อาจนับร้อยๆ ครั้งแล้วก็อาจเป็นได้ สำหรับความรันทดในความสูญเสียที่ไม่อาจกลับคืน


“การบุกรุกตัดโค่นป่าไม้แหล่งต้นน้ำ นับจากทางเหนือ อ.วังวิเศษ คลองชี คลองปาง คลองท่างิ้ว คลองในเตา คลองปากแจ่ม คลองเขาหลัก คลองลำภูรา คลองบ้านเหมก คลองละมอ คลองเขาช่อง ฯลฯ ไปถึงคลองหินแดง คลองลิพัง คลองถ้ำไผ่ตง สุดแดน อ.ปะเหลียน รอยต่อ อ.ทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ป่าธรรมชาตินับหมื่นๆ ไร่ ไม้นับแสนๆ ต้น ถูกบุกรุกตัดโค่น อำนาจและอิทธิพลคนไทยหลายหมู่พวกเว้นแต่หมู่ชนซาไก (มันนิ) อ้างเหตุผลเข้าข้างตัวเองสารพัดสารเพ ทั้งร่ำรวยและยากจน ทั้งที่มีการศึกษาสูงและการศึกษาต่ำ ทั้งที่เป็นข้าราชการและไม่ใช่ข้าราชการ ทั้งที่เป็นคนเมืองและชนบท ทั้งที่เป็นผู้นำทางการปกครอง และไม่ใช่ ถึงที่สุดอาจกล่าวได้ว่า ทั้งคนดี คนมีหน้ามีตาทางสังคมและคนชั่วคนเลวในความรู้สึกของคนทั่วไป จำนวนไม่น้อยบนแผ่นดินนี้ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกตัดโค่นป่าไม้แหล่งต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด และเทือกใหญ่น้อยอื่น กว่ายี่สิบสามสิบปีมานี้ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ภายในอุดมการณ์ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเพื่อประชาชน มิใยจะมีเสียงทัดทานผู้คนกลุ่มองค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มิใยจะมีเสียงอ้อนวอน ทัดทาน จากเด็กเยาวชนและผู้เฒ่าผู้แก่ ขบวนการบุกรุกตัดโค่นทำลายแหล่งป่าต้นน้ำก็ยังคงเดินหน้าสร้างความวิบัติฉิบหายแก่ป่าแหล่งต้นน้ำอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง แน่นอนว่าการยึดครองไม้ยึดครองที่ดิน ซึ่งหมายถึงการแปรทรัพย์สินสาธารณะมรดกลูกหลานเป็นทุน ตามนโยบายทุนนิยมสามานย์ มือใครยาวสาวได้สาวเอานั่นเอง และ มิเพียงป่าต้นน้ำเทือกเขาบรรทัดฯ ป่าบกอื่นๆ ป่าสาคู ป่าชายเลน ป่าสองฝั่งแม่น้ำตรัง แม่น้ำปะเหลียน คลองนางน้อย คลองน้ำเจ็ดฯลฯ ล้วนถูกบุกรุกทำลายทั้งสิ้น”

เสียงการสนทนาบอกเล่าถึงความปวดร้าวของแผ่นดิน ความเศร้าสลดของการเคารพกฎหมายและการละเมิดย่ำยีกฎหมาย รวมถึงการทุ่มเทเอาใจใส่และการปล่อยปละละเลยในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมจบลง ความเงียบและเสียงทอดถอนใจก็ร่ายรำห้อมล้อมกระชับพื้นที่เข้ามาร่วมวง พร้อมเสียงกระซิบในสายลมว่า

ความฉ้อฉล ความไร้ประสิทธิภาพและความไร้สาระของศูนย์กลางอำนาจรัฐบางกอกใช่หรือไม่ คือต้นธารแห่งความวิบัติในวันนี้ จงตรึกตรองใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนเถิด!

จาก :คนตรัง