จดหมายข่าวขบวนชุมชนสงขลา ฉบับสิงหาคม 2554 Download คลิ้กที่นี่ และติดตามฟังรายการปักษ์ใต้บ้านเรา ทางวิทยุ สวท.สงขลา 90.5 เมกกะเฮิร์ต เวลา 18.00-19.00 น. ทุกวันอังคาร -สวัสดิการชุมชน /ทุกวันพุธ-สภาองค์กรชุมชน


วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หรือ ‘โรดแม็ป’ จะเป็นเหมือนลูกวัวที่ถูกโยนลงบ่อจระเข้

บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฅนตรัง

ปีที่ 5 ฉบับที่ 103 วันที่ 1-15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553


รู้สึกว่า การที่นายกรัฐมนตรีประกาศจะให้มีโรดแม็ปเพื่อการปรองดองแห่งชาติ บางทีก็คล้ายๆ กับการจับลูกวัวโยนลงไปสู่บ่อจระเข้...

ใกล้จะสองเดือนเต็มทีแล้วสำหรับการออกมาชุมนุมครั้งใหญ่ของกลุ่ม นปช. หรือกลุ่ม ‘คนเสื้อแดง’ ใหม่ๆ ก็ต้องยอมรับกันว่า เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักประชาธิปไตยในการรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่ตน หรือกลุ่มตนต้องการ อย่างที่ผมเคยเปรียบเทียบหลายๆ ครั้งว่า การใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักการดังกล่าวก็เหมือนกับการที่เรายืนขึ้นแล้วโบกมือ แกว่งแขน แกว่งไปเถอะ ตราบที่ยังไม่ละเมิดไปทิ่มตาหรือเสยจมูกของผู้อื่น

ปรากฏการณ์ต่อมาต่างหากที่ทำให้คนติดตามเหตุบ้านการเมืองจำนวนมากมายเกิดความรู้สึกไม่ดีกับพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง และการยึดพื้นที่คมนาคม พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ จนชาวบ้านชาวช่องเขาเกิดความรำคาญ เบื่อหน่าย กระทั่งเอือมระอาถึงที่สุด จนต้องรวมกลุ่มกันแสดงความไม่เห็นด้วยในนามเสื้อหลากสีสัน บางครั้งนำไปสู่การปะทะกันเองในหมู่คนไทย ถึงขนาดต้องสูญเสียเลือดเนื้อ ชีวิต ไปจำนวนไม่น้อย และหลายคนเริ่มหวาดหวั่นกับสัญญาณที่อาจจะก่อเกิดเป็นสงครามกลางเมือง

เรื่องราวลื่นไหลไปกับวันเวลาที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับมาตลอด ทั้งๆ ที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการคลี่คลายสถานการณ์ ท่ามกลางการเรียกร้องของคนหมู่มากให้จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งเสียที ขณะเดียวกันบางส่วนของผู้ชุมนุมได้เริ่มแปลงกายกลายเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’ ไปแล้วในสายตาของคนรัฐบาลด้วยการออกระรานโน่น นี่ นั่น ไม่หยุดหย่อน จนความชอบธรรมในการชุมนุมที่มีน้อยนิดมาแต่ต้นเพราะเป็นการเรียกร้องเพื่อสิทธิของคนไม่มาก กลับตีลังกามาติดลบลึกสุดๆ หลังจาก ‘คนเสื้อแดง’ จำนวนหนึ่งบุกเข้าไปทำบ้าบอคอแตกในโรงพยาบาลจุฬาฯ

สถานการณ์ต่อจากนั้น เรียกได้ว่าเกิดอาการห่อเหี่ยวเรียวปลายเหลือเกินแล้วสำหรับคนกลุ่มนี้ เมื่อขาดการยอมรับจากสังคมในวงที่นับวันจะยิ่งกว้างขึ้น ภายในกลุ่มเองก็เกิดความระส่ำระสาย คล้ายๆ จะหาทางลงไม่เจอ ความคาดหวังจากผู้คนเจ้าของประเทศก็ยิ่งเร่งรัฐบาลให้เริ่ม ‘ปฏิบัติการทางกฎหมาย’ ให้ได้เห็นกันเร็วๆ เสียที

ผิดคาด... เมื่อจู่ๆ นายกรัฐมนตรีออกทีวีมาป่าวประกาศถึงโรดแม็ป หรือแผนปรองดองแห่งชาติขึ้นมาถึง 5 องค์ประกอบ ที่สำคัญ จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ วันที่ 14 พฤศจิกายน ท่ามกลางความชื่นชมยินดีในเบื้องต้น ทั้งฟากฝ่ายประชาชนโดยทั่วไป ที่เห็นว่าน่าจะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะคลี่คลายความร้อนแรงของกองไฟลงได้ และแม้แต่ผู้ชุมนุมเองที่ดีใจจนออกหน้าออกตาว่ารัฐบาลยื่นบันไดทองมาให้เดินลง แต่ก็ยังสงวนท่าที ยังไม่ยุติการชุมนุม...

อีกด้านหนึ่ง ผู้คนเกิดความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงกับการออกมาประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะเท่ากับรัฐบาลยอมจำนนต่อแรงกดดันของผู้ชุมนุม หรือแม้แต่ของ ‘ผู้ก่อการร้าย’ ในความหมายที่มีการใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธนานา ยิ่งในรายละเอียดของประกาศข้อสุดท้าย ที่หลายความเห็นบอกว่าสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่การนิรโทษกรรม เพื่อนักการเมืองบางกลุ่ม

มาถึง 3-4 วันภายหลังการประกาศว่าจะมีแผนการปรองดอง ดูเหมือนจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ เพิ่มขึ้น หลายคนที่เห็นด้วย มากมายที่คัดค้านว่าไม่เข้าท่าเลยเพราะสุดท้ายนายกฯกลับกลายเป็นคนเปิดโอกาสให้นักมวยที่กำลังจะถูกน็อกได้ฟื้นมาชกต่อในยกหก หลายพวกที่กะจะโหนรถเมล์สายปรองดองเพื่อให้ได้สิทธิทางการเมืองคืนมา ซึ่งเริ่มปรากฏการเรียกร้อง ต่อรองโหยหวนให้เห็นแล้ว

แล้วผิดไหม... ถ้าจะบอกว่า กลุ่มหลังนี้ต่างหากที่เหมือนฝูงจระเข้ที่รอจะโถมงับลูกวัวตัวที่นายกรัฐมนตรีตั้งใจโยนไปให้...