อยากให้ภาครัฐเอาภาคประชาชนเป็นทัพหน้า ไม่ใช่เอาทหารเข้ามาอย่างเดียว เพราะการทำงานของภาคประชาชนอยู่บนฐานความเป็นจริงและเคารพซึ่งกันและกัน
เปิดเวทีปฎิรูปภาคใต้ ชาวบ้านแนะชะลอแผนพัฒนาภาคใต้ ชี้ทำลายวิถีวัฒนธรรม-สิ่งแวดล้อม หลายจังหวัดติงโครงการขนาดใหญ่ของรัฐสร้างความแตกแยกให้ชุมชน เสนอตัดเงินเดือนส.ส.ลงครึ่งหนึ่งและตั้งสภาประชาชนเป็นสภาที่ 3
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2553 ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ จ.พัทลุง ได้มีการจัดเวที “คนใต้กับแผนปฎิรูปแผ่นดิน” โดยมีผู้แทนเครือข่ายชาวบ้านจาก 14 จังหวัดภาคใต้ นักวิชาการ กรรมการสมัชชาปฏิรูปและผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 200 คนเข้าร่วม
นายไมตรี จงไกรจักร ผู้แทนเครือข่ายปฎิรูปสังคมและการเมือง(คปสม.)กล่าวว่าเครือข่ายต่างๆในภาคใต้ได้ทำงานกันมานานแต่เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการเมืองจึงมีการพูดถึงเรื่องปฎิรูปประเทศไทยและมีการจัดตั้งคณะกรรมการปฎิรูปและสมัชชาปฎิรูปขึ้นมา ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะสรุปประเด็นต่างๆว่าคนใต้คิดอย่างไร อยากให้ปฏิรูปในเรื่องใดและหลังจากได้ข้อสรุปแล้วจะได้เสนอให้จัดสมัชชาคนใต้เพื่อยกระดับจากคน 200 คนเป็นคน 5,000 คนในครั้งหน้า
ผู้แทนจากชุมชนศรัทธาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวว่า ในระดับใหญ่ของการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการละเลยมิติเรื่องของศาสนาและชาติพันธุ์ซึ่งเมื่อหยิบยกขึ้นมาทีไรก็มักถูกหวาดระแวง ทั้งๆที่ฐานที่มั่นของคนในพื้นที่คือทั้งสองเรื่องนี้
“เราอยากให้ภาครัฐเอาภาคประชาชนเป็นทัพหน้า ไม่ใช่เอาทหารเข้ามาอย่างเดียว เพราะการทำงานของภาคประชาชนอยู่บนฐานความเป็นจริงและเคารพซึ่งกันและกัน ดังนั้นควรส่งเสริมให้จัดระบบชุมชนหมู่บ้านใหม่โดยใช้หลักศาสนาเป็นร่มเงาใหญ่ ผมคิดว่าถ้าทำอย่างนี้จะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้น” อ่านต่อ คลิ้กที่นี่
เปิดเวทีปฎิรูปภาคใต้ ชาวบ้านแนะชะลอแผนพัฒนาภาคใต้ ชี้ทำลายวิถีวัฒนธรรม-สิ่งแวดล้อม หลายจังหวัดติงโครงการขนาดใหญ่ของรัฐสร้างความแตกแยกให้ชุมชน เสนอตัดเงินเดือนส.ส.ลงครึ่งหนึ่งและตั้งสภาประชาชนเป็นสภาที่ 3
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2553 ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ จ.พัทลุง ได้มีการจัดเวที “คนใต้กับแผนปฎิรูปแผ่นดิน” โดยมีผู้แทนเครือข่ายชาวบ้านจาก 14 จังหวัดภาคใต้ นักวิชาการ กรรมการสมัชชาปฏิรูปและผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 200 คนเข้าร่วม
นายไมตรี จงไกรจักร ผู้แทนเครือข่ายปฎิรูปสังคมและการเมือง(คปสม.)กล่าวว่าเครือข่ายต่างๆในภาคใต้ได้ทำงานกันมานานแต่เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการเมืองจึงมีการพูดถึงเรื่องปฎิรูปประเทศไทยและมีการจัดตั้งคณะกรรมการปฎิรูปและสมัชชาปฎิรูปขึ้นมา ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะสรุปประเด็นต่างๆว่าคนใต้คิดอย่างไร อยากให้ปฏิรูปในเรื่องใดและหลังจากได้ข้อสรุปแล้วจะได้เสนอให้จัดสมัชชาคนใต้เพื่อยกระดับจากคน 200 คนเป็นคน 5,000 คนในครั้งหน้า
ผู้แทนจากชุมชนศรัทธาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวว่า ในระดับใหญ่ของการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการละเลยมิติเรื่องของศาสนาและชาติพันธุ์ซึ่งเมื่อหยิบยกขึ้นมาทีไรก็มักถูกหวาดระแวง ทั้งๆที่ฐานที่มั่นของคนในพื้นที่คือทั้งสองเรื่องนี้
“เราอยากให้ภาครัฐเอาภาคประชาชนเป็นทัพหน้า ไม่ใช่เอาทหารเข้ามาอย่างเดียว เพราะการทำงานของภาคประชาชนอยู่บนฐานความเป็นจริงและเคารพซึ่งกันและกัน ดังนั้นควรส่งเสริมให้จัดระบบชุมชนหมู่บ้านใหม่โดยใช้หลักศาสนาเป็นร่มเงาใหญ่ ผมคิดว่าถ้าทำอย่างนี้จะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้น” อ่านต่อ คลิ้กที่นี่