เราจะได้ยินได้ฟังข่าวทุกๆ ปีว่า ชาวนาประท้วงเพราะราคาข้าวตกต่ำ อ้อยขายไม่ออก ข้าวโพดถูกกดราคา มันสำปะหลังไม่ประกันราคาตามที่รับปาก ฯลฯ คนไทยส่วนใหญ่พึ่งพาภาคเกษตรไม่ว่าจะเป็นนา สวน พืชไร่ หรือประมง ทุกฤดูกาลขายผลผลิต พวกเขาต้องเผชิญชะตากรรมราคาผลผลิตตกต่ำ ไม่แน่นอน รัฐบาลก็จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อพวกเขาออกมาชุมนุมเรียกร้อง เอาพืชผลมาเทกองอยู่บนท้องถนน ข่าวเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ทุกปี
นอกจากรัฐเพิกเฉยไม่ดูแลเท่าที่ควรแล้วยังมีนโยบายทำลายการพึ่งตนเองของชุมชน ทำลายฐานทรัพยากรในรูปของโครงการพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก โครงการเขื่อนกันทรายและเขื่อนกันคลื่น ที่ส่งผลกระทบกับชายหาดและอาชีพประมง การสร้างเขื่อนที่ส่งผลต่อภาคการเกษตร การทำเหมืองแร่ เช่น เหมืองโปรแตชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะส่งผลกับชาวนาในวงกว้าง ทำให้เกษตรกรสูญเสียที่ทำกิน เมื่อความอุดมสมบูรณ์ของฐานทรัพยากรถูกทำลาย ก็ผลักดันให้คนชนบทต้องบ่ายหน้าเข้าสู่โรงงาน ผจญชีวิตในเมือง
เรื่องราวที่เกษตรกรต้องกลายมาเป็นสาวโรงงานเหล่านี้ล้วนเป็นผลจากนโยบายรัฐที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยอาศัยคำพูดเดียวที่เราไม่กล้าเถียงว่า "มันคือการพัฒนาประเทศ" อ่านต่อ คลิ้กที่นี่
นอกจากรัฐเพิกเฉยไม่ดูแลเท่าที่ควรแล้วยังมีนโยบายทำลายการพึ่งตนเองของชุมชน ทำลายฐานทรัพยากรในรูปของโครงการพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก โครงการเขื่อนกันทรายและเขื่อนกันคลื่น ที่ส่งผลกระทบกับชายหาดและอาชีพประมง การสร้างเขื่อนที่ส่งผลต่อภาคการเกษตร การทำเหมืองแร่ เช่น เหมืองโปรแตชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะส่งผลกับชาวนาในวงกว้าง ทำให้เกษตรกรสูญเสียที่ทำกิน เมื่อความอุดมสมบูรณ์ของฐานทรัพยากรถูกทำลาย ก็ผลักดันให้คนชนบทต้องบ่ายหน้าเข้าสู่โรงงาน ผจญชีวิตในเมือง
เรื่องราวที่เกษตรกรต้องกลายมาเป็นสาวโรงงานเหล่านี้ล้วนเป็นผลจากนโยบายรัฐที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยอาศัยคำพูดเดียวที่เราไม่กล้าเถียงว่า "มันคือการพัฒนาประเทศ" อ่านต่อ คลิ้กที่นี่