เมื่อพิจารณาเฉพาะเจตนาที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนและประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากที่ดินของรัฐ ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ยั่งยืนและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ก็นับว่าเป็นเจตนาที่ดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ในรายละเอียดของระเบียบนี้ ยังไม่มีคำตอบในอีกหลายเรื่อง เกรงว่าถ้าไม่มีการแก้ไขก็จะเพิ่มปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติเป็นส่วนรวมอีก ดังนี้
1. ระเบียบนี้ออกมาเพื่อดำเนินการขออนุญาตให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการตามระเบียบนี้กำหนด หมายความว่า ชุมชนที่ได้รับอนุญาตและใบอนุญาตนั้นเรียกว่าโฉนดชุมชน คือ ชุมชนที่บุกรุกที่ดินของรัฐทั้งสิ้น เรื่องนี้เคยมีมาแล้วตามมติ ครม.4พค.36 เป็นการเอาที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมมาจัดให้เกษตรกร ตาม พ.ร.บ.ปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการโดย ส.ป.ก. จำนวน 40 ล้านไร่ และที่ดินป่าสงวน เสื่อมโทรมนั้นมากกว่า 90% เป็นการเสื่อมโทรมเพราะราษฎรบุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์ ฉะนั้นการจัดครั้งนั้นก็เป็นการอนุญาตให้ผู้บุกรุกได้ครอบครองใช้ประโยชน์ตามกฎหมายและกติกาของ ส.ป.ก. และที่ดิน 40 ล้านไร่ที่ได้แจกใบอนุญาต สปก.4-01 ไปแล้ว จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการเก็บค่าตอบแทน/ค่าเช่า หรืออื่นใดให้แก่รัฐ ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนเจ้าของประเทศเลยสักบาทเดียว โฉนดชุมชนที่จะออกให้กับชุมชนที่บุกรุกก็เกรงว่าจะเข้าทำนองเดียวกันนี้
2. ระเบียบนี้มิได้กล่าวถึง ชุมชนที่อยู่อาศัยทำกินมาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้ชัดเจนว่า ถ้าตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่าชุมชนใด หรือบุคคลใดได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนการประกาศให้เป็นที่ดินของรัฐ ให้ถือว่าที่ดินที่ชุมชนหรือราษฎรครอบครองทำประโยชน์นั้นมิใช่ที่ดินรัฐ ให้ดำเนินการกันออกและทำแนวเขตให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการบุกรุกเข้าไปในเขตที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อ่านต่อคลิ้กที่นี่
1. ระเบียบนี้ออกมาเพื่อดำเนินการขออนุญาตให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการตามระเบียบนี้กำหนด หมายความว่า ชุมชนที่ได้รับอนุญาตและใบอนุญาตนั้นเรียกว่าโฉนดชุมชน คือ ชุมชนที่บุกรุกที่ดินของรัฐทั้งสิ้น เรื่องนี้เคยมีมาแล้วตามมติ ครม.4พค.36 เป็นการเอาที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมมาจัดให้เกษตรกร ตาม พ.ร.บ.ปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการโดย ส.ป.ก. จำนวน 40 ล้านไร่ และที่ดินป่าสงวน เสื่อมโทรมนั้นมากกว่า 90% เป็นการเสื่อมโทรมเพราะราษฎรบุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์ ฉะนั้นการจัดครั้งนั้นก็เป็นการอนุญาตให้ผู้บุกรุกได้ครอบครองใช้ประโยชน์ตามกฎหมายและกติกาของ ส.ป.ก. และที่ดิน 40 ล้านไร่ที่ได้แจกใบอนุญาต สปก.4-01 ไปแล้ว จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการเก็บค่าตอบแทน/ค่าเช่า หรืออื่นใดให้แก่รัฐ ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนเจ้าของประเทศเลยสักบาทเดียว โฉนดชุมชนที่จะออกให้กับชุมชนที่บุกรุกก็เกรงว่าจะเข้าทำนองเดียวกันนี้
2. ระเบียบนี้มิได้กล่าวถึง ชุมชนที่อยู่อาศัยทำกินมาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้ชัดเจนว่า ถ้าตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่าชุมชนใด หรือบุคคลใดได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนการประกาศให้เป็นที่ดินของรัฐ ให้ถือว่าที่ดินที่ชุมชนหรือราษฎรครอบครองทำประโยชน์นั้นมิใช่ที่ดินรัฐ ให้ดำเนินการกันออกและทำแนวเขตให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการบุกรุกเข้าไปในเขตที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อ่านต่อคลิ้กที่นี่