พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินของชาวบ้านในชุมชนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำความเข้าใจกับเครือข่ายชาวบ้านเพื่อร่วมผลักดันแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายบางฉบับที่ต่างเห็นร่วมกันว่าเป็นปัญหาต่อสิทธิการถือครองที่ดินทำกินของประชาชน ประกอบไปด้วยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในมาตรา4 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ในมาตราที่4(1) และเพิ่มเติม ใน 4(1/1) และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ในมาตราที่ 4 และมาตรา6(2) ทั้งนี้การเสนอให้แก้ไขกฎหมายทั้ง3ฉบับเป็นไปในทางเดียวกันคือการแก้ไขเพิ่มเติมในนิยามคำว่า”ป่า”และ”สิทธิในที่ดิน” เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและผลประโยชน์ในสิทธิการถือครองที่ดินของชาวบ้าน จากเดิมที่นิยามของคำดังกล่าวถูกจำกัดให้ผู้ที่มีสิทธิถือครองคือผู้ที่มีเอกสารสิทธิ์เท่านั้น
พล.อ.สุรินทร์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเคยเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการรัฐสภาในสมัยรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์มาแล้วแต่เนื่องจากระยะเวลาในสมัยประชุมไม่เพียงพอทำให้กฎหมายตกไป แต่หลังจากนี้เมื่อได้ให้ข้อมูลและประชาชนเห็นด้วยจะเปิดลงชื่อสนับสนุนตามขั้นตอนการเสนอชื่อตามกระบวนการกฎหมายกฎหมายซึ่งคาดว่าน่าจะทันการการพิจารณาของการประชุมรัฐสภาสมัยหน้าได้
พล.อ.สุรินทร์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเคยเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการรัฐสภาในสมัยรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์มาแล้วแต่เนื่องจากระยะเวลาในสมัยประชุมไม่เพียงพอทำให้กฎหมายตกไป แต่หลังจากนี้เมื่อได้ให้ข้อมูลและประชาชนเห็นด้วยจะเปิดลงชื่อสนับสนุนตามขั้นตอนการเสนอชื่อตามกระบวนการกฎหมายกฎหมายซึ่งคาดว่าน่าจะทันการการพิจารณาของการประชุมรัฐสภาสมัยหน้าได้
“มีชาวบ้านจำนวนมากได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินก่อนที่จะประกาศเป็นที่ดินของรัฐ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและพวกเขาต้องกลายเป็นผู้บุกรุก ดังนั้นจึงเห็นว่าควรกำหนดบทนิยามของคำว่า”สิทธิในที่ดิน”และ”ป่า” รวมถึงกำหนดพื้นที่อุทยานแห่งชาติเสียใหม่ให้เหมาะสมกับความความเป็นจริงและเป็นประโยชน์กับชาวบ้าน”พล.อ.สุรินทร์กล่าว
ที่มา : โต๊ะข่าวเพื่อชุมชน http://www. isranews.org/community/