จดหมายข่าวขบวนชุมชนสงขลา ฉบับสิงหาคม 2554 Download คลิ้กที่นี่ และติดตามฟังรายการปักษ์ใต้บ้านเรา ทางวิทยุ สวท.สงขลา 90.5 เมกกะเฮิร์ต เวลา 18.00-19.00 น. ทุกวันอังคาร -สวัสดิการชุมชน /ทุกวันพุธ-สภาองค์กรชุมชน


วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

ม่านหมอกความรุนแรงที่บ้านกูจิงลือปะ...ตราบาปในหัวใจที่ยากจะเลือน

“กูจิงลือปะ” เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ใน ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เขตติดต่อกับ ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เช่นกัน มีประชากรอาศัยอยู่ 1,128 คน 194 ครัวเรือน นับถือศาสนาอิสลาม 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความที่เป็นพื้นที่ติดภูเขา ทำให้สมาชิกในหมู่บ้านล้วนประกอบอาชีพทำสวนยางพารา มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เลือกทำนาและสวนผลไม้

เดิมทีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ไม่เป็นที่รู้จักของคนภายนอกแม้แต่น้อย กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนร้ายจับตัวและรุมทำร้าย ครูจูหลิง ปงกันมูล กับ ครูศินีนาฎ ถาวรสุข ครูสาวไทยพุทธ 2 คนของโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ จนสุดท้ายครูจูหลิงต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ถือเป็นข่าวโหดร้ายและสะเทือนสังคมไทยมากที่สุดในปี 2549 นั่นแหละจึงทำให้หมู่บ้านกูจิงลือปะเป็นชื่อที่ติดปากคนทั่วไป

และแน่นอนว่าย่อมทำให้สังคมภายนอกมองคนที่หมู่บ้านแห่งนี้ในแง่ลบ

“เวลาเกิดเหตุยิงกันที่ตลาดตันหยงมัส หรือที่ตัวอำเภอระแงะ คนส่วนใหญ่มักจะพูดกันทำนองว่า คนร้ายก่อเหตุแล้วหนีเข้ามาในกูจิงลือปะ หรือไม่ก็ว่าคนร้ายมาจากกูจิงลือปะ จะมีเสียงพูดถึงบ้านกูจิงลือปะทำนองนี้แทบทุกครั้งที่เกิดเหตุ” เป็นความรู้สึกของ มะดารี มาเยาะดาเซะ ผู้ใหญ่บ้านกูจิงลือปะ ที่สะท้อนถึงความน้อยใจและไม่สบายใจต่อสายตาของสังคมที่เพ่งมองยังหมู่บ้านและลูกบ้านของเขา

“คนทั่วไปชอบมองบ้านกูจิงลือปะในแง่ลบมาตลอด หลังจากเกิดเหตุการณ์ทำร้ายครูจูหลิง อย่างล่าสุดมีครูถูกยิงเสียชีวิตที่ ต.กาลิซา ก็พูดกันอีกว่าคนร้ายเป็นคนกูจิงลือปะ คนร้ายมันหลบหนีมาทางบ้านกูจิงลือปะ ชาวกูจิงลือปะออกไปทำธุระในตลาดได้ยินคำพูดแบบนี้เสมอจนรู้สึกไม่สบายใจ”

ในฐานะผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในพื้นที่มานาน มะดารี ยืนยันว่า ไม่มีคนร้ายหลบเข้ามากบดานในกูจิงลือปะ หรือคนกูจิงลือปะไปเป็นคนร้ายแน่นอน

“หากคนร้ายเป็นคนกูจิงลือปะจริง หรือใช้เส้นทางหลังก่อเหตุหลบหนีเข้ามายังพื้นที่ เราก็ต้องรู้ ต้องเห็นตัวคนร้ายแล้ว เพราะตลอดเส้นทางมีฐานทหารและด่านตรวจของ ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) เยอะไปหมด แม้แต่ที่กูจิงลือปะเองก็มี ชรบ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนร้ายหลบหนีเข้ามา”

มะดารี บอกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครูจูหลิงเมื่อกลางปี 2549 หมู่บ้านกูจิงลือปะก็ไม่เคยเกิดเหตุร้ายขึ้นมาอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพิ่งจะมาเกิดเมื่อเดือนทีแล้ว คือเหตุการณ์ใช้อาวุธสงครามยิง นางเจ๊ะแมะ หะแย กับ น.ส.บาราตี ลาบอ บุตรสาว เสียชีวิตขณะออกไปกรีดยางเท่านั้น

"เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้” มะดารี ระบายความรู้สึก

การสังหารได้แม้กระทั่งผู้หญิง โดยที่ผู้ตายไม่เคยมีเรื่องกับใคร ยกเว้นถูกออกหมายจับในคดีครูจูหลิง ทำให้เกิดความกลัวและหวาดระแวงอย่างมากในหมู่บ้าน
อ่านต่อ คลิ้กที่นี่